ผมแบบไหน? ควรทํา โปรแกรมฉีดกระตุ้นรากผม แก้ผมบาง

โดยธรรมชาติแล้ว คนเรามีเส้นผมอยู่บนศีรษะประมาณ 100,000 เส้น ซึ่งเส้นผมจะร่วงประมาณ 50-100 เส้นต่อวัน แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาผมร่วงเยอะมากกว่าวันละ 100 เส้น มีภาวะเส้นผมอ่อนแอ หลุดร่วงง่าย ทำให้ผมบาง เริ่มเห็นหนังศีรษะ หลายคนนึกถึงการ ฉีด PRP ผม เพื่อรักษาปัญหาผมต่างๆ เหล่านี้ ใครเคย ทำ PRP ผมบาง จะรู้เลยว่าเป็นวิธีแก้ผมบาง กลับมาหนาอย่างตรงจุด โดยที่ไม่ต้องปลูกผม ซึ่งเห็นผลไว ได้ผลดี และไม่มีผลข้างเคียงด้วย BLS Hair Center ชวนคนที่อยากแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง มาหาสาเหตุกันว่าปัญหาผมร่วงเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีการประเมินปัญหาผมในเบื้องต้นง่ายๆ ด้วยตนเอง แล้วมาดูกันว่าปัญหาผมแบบไหนบ้าง? เหมาะกับการฉีด PRP ผม

ผมร่วงเกิดจากอะไร?

1. ผมร่วงบางจากกรรมพันธุ์

คนที่มีประวัติครอบครัวผมบาง และเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผมบางมากขึ้นอีก เพราะเส้นผมจะมีลักษณะเส้นหนา ใหญ่ และมีความหนาแน่นมากที่สุด จนถึงวัยเพียง 30 ปีเท่านั้น หลังจากนั้น เส้นผมจะเริ่มมีลักษณะเส้นบาง เล็กลง และมีความหนาแน่นน้อยลง

2. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเร็ว

แม้ว่าฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ที่สร้างมาจากฮอร์โมนเพศชาย จะเป็นฮอร์โมนหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง แต่ผู้หญิงเองก็มีช่วงที่ฮอร์โมนร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะผมร่วงเช่นกัน อย่างเช่น ช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอดบุตร วัยหมดประจำเดือน เป็นต้น

3. ความเครียด

ความเครียด หรือเหตุการณ์สะเทือนใจ ส่งผลให้เกิดภาวะผมร่วงชั่วคราวได้ แต่หากเกิดจากความเครียดสะสมในชีวิตประจำวัน อาจทำให้รากผมเข้าสู่ระยะพักตัว เส้นผมไม่งอก และยังกระตุ้นให้เกิดภาวะผมร่วงฉับพลัน จนผมบางลงได้

4. โรคที่ทำให้ผมร่วง

เช่น โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ โรคต่อมไทรอยด์ หรือเป็นโรคที่จำเป็นต้องใช้ยาบางชนิดที่อาจส่งผลให้ผมร่วง เช่น โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง หรือภาวะซึมเศร้า เป็นต้น

ผมร่วงเกิดจากอะไร ผมร่วงบางจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน ความเครียด

วิธีประเมิน ‘ปัญหาผม’ เบื้องต้นด้วยตัวเอง

1. ผมบาง

คนที่มีลักษณะที่เรียกได้ว่า ‘ผมบาง’ สำหรับเพศหญิงสามารถสังเกตได้จากรอยแสกผมบนหนังศีรษะ ผู้หญิงที่มีภาวะผมบาง จะเห็นรอยแสกผมมีขนาดกว้างกว่าปกติ และอาจขยายความกว้างขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้รับการรักษา

ส่วนเพศชายที่มีภาวะผมบาง จะสามารถมองเห็นผมแหว่งเว้าเป็นง่ามเหนือขมับทั้งสองข้างขึ้นไป จนทำให้หน้าผากลึก มองเห็นเป็นรูปตัว M

2. ผมร่วง

ในแต่ละวัน ผมของเราจะร่วง 100 เส้นโดยประมาณ สามารถนับจำนวนเส้นผมที่ร่วงได้ ขณะทำกิจวัตรประจำวัน เช่น ตอนตื่นนอน ตอนอาบน้ำ ตอนหวีผมหรือเป่าผม เป็นต้น สามารถนำเส้นผมมานับรวมกันคร่าวๆ หากมีผมร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน จะนับว่าเป็นคนที่มีภาวะผมร่วง ที่ควรรักษา

3. ผมเส้นเล็ก

สังเกตจากขนาดของเส้นผม หากเป็นคนที่ผมเส้นเล็ก และมีปัญหาผมร่วงเยอะมาก จะส่งผลให้มีความหนาแน่นของเส้นผมบนศีรษะลดลง และมีปัญหาผมบางตามมา หรือบางคนอาจเคยมีผมเส้นใหญ่ แต่ปัจจุบันเส้นผมเล็กลง ทำให้ศีรษะบางลงได้

วิธีประเมิน 'ปัญหาผม' เบื้องต้นด้วยตัวเอง ผมร่วงมากกว่า 100 เส้น เป็นภาวะผมร่วง — วิธีประเมิน ‘ปัญหาผม’ เบื้องต้นด้วยตัวเอง ผมร่วงมากกว่า 100 เส้น เป็นภาวะผมร่วง

ผมบาง กลับมาหนา มีวิธีแก้อย่างไร? โดยไม่ต้องปลูกผม

การ ฉีด PRP ผม (Platelet Rich Plasma) ด้วยโปรแกรม PRP Anti-Hair Loss เป็นวิธีการแก้ไขให้ผมบาง กลับมาหนา โดยที่ไม่ต้องปลูกผม แต่เป็นการใช้พลาสมาและเกล็ดเลือดเข้มข้นที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ โดยใช้เทคนิคการนำเลือดมาปั่นตกตะกอนจนได้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและเส้นผมมาฉีดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อช่วยซ่อมแซมเซลล์ (Growth Factor) ให้เซลล์รากผมกลับมาสมบูรณ์ แข็งแรงขึ้น ลดปัญหาผมร่วง ผมบางได้อย่างตรงจุด และยังช่วยบำรุงเซลล์รากผม ให้เส้นผมใหญ่ขึ้นและมีความหนาแน่นมากขึ้น

ผมบาง กลับมาหนา โดยไม่ต้องปลูกผม ด้วยการฉีด PRP ผม

ปัญหาผมแบบไหนบ้าง? เหมาะกับการ ฉีด PRP ผม

1. ผมเริ่มบางลง

โปรแกรมฉีดกระตุ้นรากผม ให้ผมบางกลับมาหนา ช่วยกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม ทำให้ผมหนาแน่นขึ้น เป็นการแก้ปัญหาผมบางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งทำต่อเนื่อง จะยิ่งช่วยให้ผมดกหนาขึ้น

2. ผมร่วงเยอะมาก

โปรแกรมฉีดกระตุ้นรากผม แก้ผมบาง ช่วยให้รากผมแข็งแรงขึ้น เส้นผมไม่หลุดร่วงได้ง่าย ลดปัญหาผมร่วงได้อย่างตรงจุด และยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะผมบาง ศีรษะล้านได้

3. ผมเส้นเล็กลง

ฉีด PRP ผม ช่วยกระตุ้นรากผมที่เสื่อมสภาพ ให้กลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง ช่วยให้เส้นผมเกิดใหม่แข็งแรง เส้นผมใหญ่ขึ้น

ปัญหาผมแบบไหนบ้าง? เหมาะกับการฉีด PRP ผม

ข้อปฏิบัติหลังทํา PRP ผม

หลังทำไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ควรงดสระผม 1 วัน โดยสามารถสระผมได้ในวันถัดจากวันรับบริการ
หลังทำ 1 วัน ควรงดใช้สารเคมี เช่น เจลผม แวกซ์ หรือสเปรย์จัดแต่งทรงผม
ช่วง 1 สัปดาห์หลังทำ ควรใช้ยาสระผมสูตรอ่อนโยนในการสระผม
หลีกเลี่ยงการนวด เกา หรือขยี้ศีรษะรุนแรง
กรณีเกิดอาการบวมหลังทำ สามารถหายได้เองโดยใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน สามารถประคบเย็น เพื่อช่วยลดอาการบวม ให้หายเร็วขึ้นได้

PRP ผม ที่ไหนดี?

1. เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน

ก่อนเข้ารับบริการฉีด PRP ผม ต้องมั่นใจว่าคลินิกหรือสถานพยาบาลที่เลือก มีมาตรฐาน ปลอดภัย และได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขในการประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง

สำหรับ BLS Hair Center แนะนำให้เสิร์ชด้วยคำว่า “บลอสซั้ม” ซึ่งเป็นชื่อที่ทางคลินิกใช้ในการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือนำเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก จากป้ายหน้าคลินิก มาตรวจสอบสถานพยาบาลเอกชนที่ได้รับอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ https://hosp.hss.moph.go.th/

2. เลือกแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะโดยตรง

หากพูดถึงแพทย์ที่มีความชำนาญด้านเส้นผมและการปลูกผมโดยเฉพาะ ไม่เอ่ยถึงแพทย์ปลูกผมอเมริกันบอร์ด ABHRS คงไม่ได้ เพราะเป็นแพทย์ที่ได้รับรองจากองค์กรด้านการปลูกผมระดับโลกที่ชื่อว่า American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) ที่มีประสบการณ์ด้านการปลูกผมในระดับสูง มีความละเอียดและชำนาญในการปลูกผมโดยตรง จากการผ่านฝึกอบรม และการตรวจสอบประสบการณ์ผ่าตัดปลูกผมมานับไม่ถ้วน โดยมีการเก็บจำนวนเคสตามที่ ABHRS กำหนด และต้องผ่านการสอบวัดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการปลูกผมและศาสตร์การแพทย์อื่นๆ ที่มีความข้องเกี่ยวกันทั้งหมด

สำหรับผู้รับบริการที่ BLS Hair Center ทุกเคสจะได้รับการดูแลโดย “หมอบี” พญ.กุลวิภาภัสร์ จาตุรพิศานุกูล แพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม อเมริกันบอร์ด (ABHRS) ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและการปลูกผม (ISHRS, USA) รับรองโดยสมาคมศัลยแพทย์ปลูกผม นานาชาติ (ISHRS) และล่าสุดยังได้รับคัดเลือกให้เป็นกรรมการคุมสอบ ศัลยแพทย์ปลูกผมอเมริกันบอร์ด (ABHRS Examiner) อีกด้วย

หมอบี แพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม อเมริกันบอร์ด (ABHRS)

แนะนำ
เช็ครายชื่อหมอปลูกผม อเมริกันบอร์ดได้ง่ายๆ คลิกเลย

3. เลือกคลินิกที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย

การเลือกคลินิกที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา และเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จะช่วยประหยัดเวลาในการรับบริการ เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น และยังช่วยให้การทำหัตถการมีประสิทธิมากขึ้น อย่าง BLS Hair Center จะใช้เทคโนโลยี Vital injector ในการฉีด PRP ผม ซึ่งมีฟังก์ชั่น Multi Needle ที่มีการกระจายหัวเข็มถึง 9 หัวเข็ม ช่วยให้พลาสมากระจายตัวได้ทั่วทั้งศีรษะในเวลาอันสั้น ช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพให้กับโปรแกรมฉีดกระตุ้นรากผม แก้ผมบางมากขึ้น

ฉีด PRP ผม ราคาเท่าไหร่?

จุดบริการฉีด PRP ผม ราคาดี ที่ BLS Hair Center มีบริการ ฉีด PRP ผม ใกล้ฉัน ถึง 3 สาขาด้วยกัน ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้เลย พร้อมติดตามราคาสุดคุ้มได้ที่ https://bls-haircenter.com/promotion/