ปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) คือการเจาะเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอยด้านหลังศีรษะ หรือเรียกว่า Safe Zone เป็นโซนที่เส้นผมมีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย และทำการย้ายมาปลูกผมบริเวณด้านหน้า แก้ปัญหาหน้าผากกว้าง ผมบาง ศีรษะล้าน ผมบริเวณหน้าผากร่นขึ้นไปเป็นรูปตัว M หรือปัญหารอยแสกผมกว้าง
ปลูกผม FUE คือ เทคนิคปลูกผมถาวรโดยการย้ายเซลล์รากผมที่อยู่ในลักษณะเป็น ‘เส้นผม’ ออกจากบริเวณ Safe Zone ด้วยเครื่องมือพิเศษที่ใช้ในการเจาะรากผมโดยเฉพาะ เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการคัดเลือกกราฟผมที่มีคุณภาพดี ซึ่งมีเส้นผมแข็งแรง (โดยปกติแล้ว กราฟผม 1 กราฟ จะประกอบด้วยกลุ่มเส้นผมที่อยู่รวมกันประมาณ 1-4 เส้น ในรูขุมขนเดียว ยิ่งใน 1 กราฟผม มีจำนวนผม และความอวบของเส้นผมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งบ่งบอกถึงคุณภาพของกราฟผม) และมีการคัดอย่างละเอียดอีกครั้งด้วยกล้องจุลทรรศน์ กราฟผมที่ได้จึงมีความสมบูรณ์และแข็งแรงที่สุด จากนั้นจึงนำกราฟผมที่คัดเลือกมาปลูกผมในบริเวณที่ต้องการรักษา วิธีนี้ไม่ต้องผ่าตัดบริเวณหนังศีรษะ ทำให้รอยแผลเล็กมาก ขนาดเท่ากับรูขุมขนเท่านั้น และยังใช้เวลาพักฟื้นน้อยอีกด้วย
การปลูกผม FUE เป็นเทคนิคการปลูกผมถาวรใหม่ล่าสุด ที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะเห็นผลจริง และผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร นอกจากนี้ยังมีข้อดีอีกมากมายที่ทำให้คนไข้เป็นจำนวนมากประทับใจผลลัพธ์และต่างบอกต่อ
ผมร่วง ผมบาง เชื่อว่าเป็นปัญหาที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะปัญหานี้เกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย ทั้งในคนอายุน้อย ช่วงประมาณ 20 ปีขึ้นไป หรือคนมีอายุ ด้วยสภาพแวดล้อมที่กดดัน และความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน อาจทำให้เกิดภาวะเครียดสะสมได้ง่าย ส่งผลให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบางตามมา แต่สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง คืออะไร? ไปหาคำตอบกับ BLS Hair Center กัน
เส้นผมของคนเรามีประมาณ 100,000 เส้น และยาวขึ้นประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร โดยเฉลี่ยต่อเดือน โครงสร้างของเส้นผม แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่งอกพ้นจากหนังศีรษะ (Hair Shaft) หรือเส้นผมที่ปกคลุมหนังศีรษะ และส่วนของรากผม ที่ฝังอยู่ในเนื้อเยื่อของหนังศีรษะ (Hair Root) จะมีต่อมรากผม ซึ่งประกอบด้วยปุ่มปลายแหลม ที่มีเลือดและเส้นประสาทหล่อเลี้ยง ทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์รากผมให้เกิดการแบ่งตัว ทำให้เซลล์ผมเกิดใหม่เรื่อยๆ จึงมีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยปกติต่อมรากผม มีประมาณ 5 ล้านต่อม และจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
ตอนเด็กๆมักจะมีคนทักว่า ผมเยอะจัง ผมหนาจัง เวลาหวีผมแรงๆ ผมก็ไม่ค่อยร่วง แต่เมื่อเราโตขึ้นจะรู้ได้ว่าแค่เอามือเสยผม เส้นผมก็หลุดติดมือแล้ว นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง สังเกตได้จากเสียงที่เริ่มเปลี่ยนทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งเส้นผมมีวงจรชีวิต “ขึ้น หยุด ร่วง” วนไปเรื่อยๆ แต่เมื่อฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลง จะทำให้ระยะเวลาหยุดพักของเส้นผมนานขึ้น โดยเฉพาะฮอร์โมน DHT เป็นฮอร์โมนหลักที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วง ผมบาง
ฮอร์โมน DHT หรือฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone) เป็นฮอร์โมนเพศที่ทำหน้าที่พัฒนาและควบคุมลักษณะเพศชาย เช่น ทำให้เสียงทุ้ม องคชาติและถุงอัณฑะเจริญเติบโต บำรุงต่อมลูกหมาก กระตุ้นการสร้างเส้นขนบริเวณใบหน้าและร่างกาย รวมถึงคอยปรับสมดุลฮอร์โมนที่ช่วยให้เส้นผมเจริญเติบโต
หากมีฮอร์โมน DHT มากเกินไป DHT จะเข้าไปจับกับ Androgen receptor บริเวณรากผม ทำให้วงจรผมเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ผมมีระยะเติบโต (Anagen phase) ที่สั้นลง และเข้าสู่ระยะหยุดเติบโต (Catagen phase) นานขึ้น เส้นผมที่โดนยับยั้งการเจริญเติบโต ทำให้ผมไม่งอก รากผมสร้างเส้นผมได้สั้นลง เส้นผมเล็กและบางลง ผมร่วงฉับพลัน ทำให้เกิดปัญหาผมบางตามมา จนเมื่อเวลาผ่านไป รากผมจะเกิดสภาวะฝ่อตัว และไม่สามารถทำหน้าที่สร้างผมได้อีกต่อไป โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ หรือหัวล้านกรรมพันธุ์เป็นทุนเดิม ฮอร์โมน DHT ก็จะยิ่งกระตุ้นให้ผมร่วงหนักขึ้น จนเป็นเหตุให้เกิดปัญหาศีรษะล้านตามมา
กรรมพันธุ์หรือพันธุกรรม เป็นตัวกำหนดรูปร่างหน้าตาไปจนถึงโรคต่างๆ รวมถึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง สังเกตง่ายๆ ว่าหากมีสมาชิกในครอบครัวที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน อาการเหล่านี้สามารถส่งต่อผ่านทางกรรมพันธุ์ มาถึงตัวเรา อาจทำให้มีภาวะหัวล้านกรรมพันธุ์ หรือ ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ได้
สาเหตุที่ทำให้ผมร่วง ผมบาง นอกจากพันธุกรรม หรือฮอร์โมน ยังอาจเกิดจากยา หรือสารเคมี เพราะหลายคนมักเริ่มต้นรักษาปัญหาเส้นผม ด้วยการทานยาหรือใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม แต่อาจลืมคำนึงถึงอาการแพ้ยา หรือ Side Effect หลังใช้ยาและผลิตภัณฑ์บำรุงผม รวมถึงยังมีตัวยาหลายชนิดที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบางได้ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบยาหรือผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันการแพ้ยา หรือปรึกษาแพทย์ที่ชำนาญด้านเส้นผมโดยตรง จะเป็นวิธีที่ดีและปลอดภัยที่สุด
เทคนิคปลูกผม FUE จะใช้เครื่องมือเจาะไฟฟ้าในการเจาะรากผม เพื่อนำไปปลูก ทำให้ไม่ต้องผ่าตัด แต่การปลูกผม FUT ใช้วิธีการตัดหนังศีรษะชั้นบนบางส่วนจากท้ายทอยพร้อมกับรากผม ซึ่งจะทำให้ได้จำนวนกราฟผมมากถึง 3,000 – 4,000 กราฟ แต่ไม่สามารถเลือกรากผมได้ ในขณะที่เทคนิคปลูกผม FUE สามารถเลือกจำนวนและคุณภาพกราฟได้ ซึ่ง FUT จะเหมาะกับคนที่ต้องปลูกผมจำนวนมาก หรือคนที่มีผมด้านหลังหนา แต่ FUE จะเหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
โดยระยะเวลาในการปลูกผม FUT ใช้เพียง 3-5 ชั่วโมง แต่เทคนิคปลูกผม FUE จะใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่ปลูก โดยใช้อุปกรณ์ DHI (Direct Hair Implantation) ช่วยเพิ่มความแม่นยำและประหยัดเวลาในการปลูกผมได้ นอกจากนี้รอยผ่าตัดจากการปลูกผม FUT จะมีรอยเป็นเส้นตรงด้านหลัง แต่เทคนิค FUE จะไม่มีแผล เพราะรอยเจาะจะเป็นเพียงจุดเล็กๆ กระจายทั่วศีรษะด้านหลังเท่านั้น
1. วางแผนการรักษา เพื่อแก้ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะอย่างรอบด้าน
2. ออกแบบแนวผมร่วมกับแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ของทรงผมที่เหมาะกับแต่ละบุคคล
3. เลือกตำแหน่งที่มีรากผมแข็งแรงบริเวณท้ายทอย (Safe Zone)
4. โกนผมบริเวณ Safe Zone ให้สั้นลง เพื่อให้แพทย์สามารถวาดแนวหนังศีรษะที่จะทำการเจาะผิวหนังได้สะดวก
หมายเหตุ :
ปลูกผม FUE ราคาจะขึ้นอยู่กับปริมาณกราฟผมที่ใช้ในการทำหัตถการ ดังนั้นหากต้องการทราบว่าการปลูกผม FUE ราคาเท่าไหร่? จึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการประเมินปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะว่ามีปัญหาผมร่วง ผมบางในระดับไหน จึงจะสามารถคำนวณจำนวนกราฟที่ต้องใช้ และประเมินราคาในการรักษาได้อย่างถูกต้อง สำหรับการปลูกผม ที่ BLS Hair Center สามารถเช็คราคาปลูกผม FUE รวมถึงการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิคอื่นๆ ได้ที่ https://bls-haircenter.com/promotion/
การปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation) เป็นเทคนิคการใช้ Implanter Pen หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการปลูกผมโดยเฉพาะ มีลักษณะคล้ายปากกาที่มีส่วนปลายเป็นท่อโลหะขนาดเล็กพิเศษ ใช้สำหรับใส่รากผมกลับเข้าไปยังบริเวณหนังศีรษะ วิธีนี้จะช่วยปกป้องรากผมไม่ให้เกิดความเสียหายและมีสภาพสมบูรณ์มากที่สุดเมื่อนำมาใช้งาน จึงช่วยให้ผลลัพธ์ของการปลูกผมดียิ่งขึ้น ดังนั้นในการปลูกผมถาวร ไม่ว่าเทคนิคใดก็ตาม ทั้งปลูกผม FUE ปลูกผมไม่ต้องโกน หรือปลูกผม FUT ก็สามารถใช้เครื่องมือ DHI ร่วมด้วยได้ทุกเทคนิค
กราฟผม หรือ กอรากผม ประกอบด้วยเส้นผม 1-4 เส้น / กราฟ ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเส้นผมแต่ละบุคคล ซึ่งบริเวณท้ายทอย (Safe Zone) มักเป็นบริเวณที่มีเส้นผมแข็งแรงและหนาแน่นมากที่สุด เพราะเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT น้อยกว่าบริเวณอื่น แพทย์จึงมักใช้เส้นผมจากบริเวณท้ายทอยมาปลูกผมบริเวณด้านหน้า โดยจำนวนกราฟที่ใช้การปลูกผม แพทย์จะประเมินจากปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะในแต่ละเคส ว่ามีปัญหาผมร่วง ผมบางในระดับใด พร้อมการออกแบบแนวผมให้รับกับใบหน้า และคำนวณปริมาณกราฟผมที่ต้องใช้ ส่วนใหญ่ในการปลูกผมแต่ละครั้ง จะใช้กราฟผมไม่เกิน 3,000 กราฟ
การปลูกผมถาวร สามารถปลูกได้มากกว่า 1 ครั้ง แต่มีข้อจำกัดอยู่ที่จำนวนกราฟผมบริเวณ Safe Zone ที่มีอย่างจำกัด หากทำการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอยมาปลูกผมแล้ว บริเวณด้านหลังก็จะไม่มีผมขึ้นมาอีก ใช้แล้วหมดไป ดังนั้นแพทย์จึงต้องวางแผนในการเลือกกราฟผมอย่างละเอียด และนำมาใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์ของการปลูกผมมีประสิทธิภาพ หลังปลูกผมไม่บางด้านหลัง และยังมีรากผมเหลือเพียงพอสำหรับการปลูกผมในอนาคต
เทคนิคปลูกผมด้วยการย้ายเซลล์รากผม ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผม FUE ปลูกผมไม่ต้องโกน หรือปลูกผม FUT จะให้ผลลัพธ์ถาวร โดยเห็นผลตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป เส้นผมจะเกิดขึ้นใหม่ในบริเวณที่ปลูกผม มีความหนาแน่นและแข็งแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป หลังปลูกผมถาวรแล้ว สามารถฉีดผม PRP กระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม เดือนละครั้ง ในช่วง 3 เดือนแรกร่วมด้วย และเมื่อผมขึ้นดีแล้ว สามารถฉีดผม PRP ต่อเนื่อง ทุก 3-6 เดือน เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนานมากขึ้นได้
ตามหาคลินิก ปลูกผม (Hair Transplant Clinic) หรือ คลินิก ปลูกผม ใกล้ ฉัน อยู่ใกล้มาง่าย อยู่ใจกลางเมือง และมีหลายสาขา ทั้งคลินิกปลูกผมกรุงเทพ (Hair Transplant Bangkok) และ คลินิก นครปฐม แวะ BLS Hair Center คลินิกปลูกผมที่ทำหัตถการโดยแพทย์อเมริกันบอร์ด มีบุคลากรที่มีจรรยาบรรณทางการแพทย์ มีความชำนาญด้านการปลูกผมและดูแลเส้นผมให้กับคนไข้โดยเน้นความปลอดภัยของคนไข้มาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยมาตรฐานระดับสูง ภายใต้ศูนย์การแพทย์ BLS Medical Center คลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรม เลขที่ใบอนุญาต 10102002367 (ตรวจสอบได้ที่ https://hosp.hss.moph.go.th/ ) และยังเป็นคลินิกที่ได้รับรางวัล Master Entrepreneur Award จากงานประกาศรางวัลระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และปัจจุบันยังเป็นคลินิก ปลูกผมที่คนไข้ปลูกผม Long Hair และปลูกผม Non-Shaven Female Hairlines นึกถึงมากเป็นอันดับต้นๆ สามารถปรึกษากับแพทย์ได้โดยตรง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย!
88 โครงการสเตเดี้ยมวัน พื้นที่บริการ 2 จุด ชั้น 1 และ ชั้น 5 ซอยจุฬา 5 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
Call : 024-609-210 กด 1
95/3-6 ถนนราชดำเนิน ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม 73000
Call : 024-609-210 กด 3
200/50-51 หมู่ 5 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170
Call : 024-609-210 กด 4
พร้อมรับสิทธิ์ตรวจสอบสภาพเส้นผม